การเปลี่ยนแบตเตอรี่รถยนต์อย่างปลอดภัยมือใหม่ก็ทำได้

แบตเตอรี่รถยนต์นั้นมีบทบาทสำคัญในการให้พลังงานแก่รถของคุณ ไม่เพียงแต่เป็นตัวสำรองไฟฟ้าเท่านั้น แต่ยังมีผลต่อเครื่องยนต์และระบบไฟฟ้าภายในรถทุกประการ หากเกิดเหตุจำเป็นขึ้นมาและคุณอยากที่จะเปลี่ยนแบตเตอรี่เองก็สามารถทำได้ โดยการเปลี่ยนแบตเตอรี่รถยนต์อย่างปลอดภัยคุณเองก็เปลี่ยนได้นั้นก็อาจมีข้อจำกัดบางอย่างด้วยเช่นกัน

1.แบตเตอรี่เป็นหัวใจของรถยนต์

แบตเตอรี่เป็นอุปกรณ์ที่สำคัญในการให้พลังงานแก่รถยนต์ เมื่อมีการใช้งานน้อยลงหรือไม่ได้รับการดูและแบตเตอรี่ก็สามารถเสื่อมลงได้หากแบตเตอรี่เสื่อมก็ควรเปลี่ยนแบตเตอรี่เพื่อให้รถสามารถใช้งานได้ต่อ ดังนั้นควรมั่นดูแลและทำความสะอาดแบตเตอรี่เพื่อประสิทธิภาพในการทำงานต่างๆในระบบรถยนต์ของคุณ

2.สัญญาณที่บอกว่าแบตเตอรี่ต้องการเปลี่ยน

2.1 รถยนต์สตาร์ทไม่ติดหรือสตาร์ทแล้วใช้เวลานาน

หากใช้เวลาในการสตาร์ทรถนานหรือสตาร์ทไม่ติดก็เป็นหนึ่งในสาเหตุที่กำลังบ่งบอกว่าแบตเตอรี่ของคุณกำลังเสื่อมลงหรือหมดประสิทธิภาพในการทำงานแล้วนั้นเอง เมื่อพอว่าแบตเตอรี่หมดสภาพการใช้งานแล้วควรเปลี่ยนแบตเตอรี่เพื่อประสิทธิภาพในการขับขี่รถยนต์ของคุณ

2.2 ไฟที่แสดงบนแผงควบคุม         

ไฟที่แผงหน้าปัดในรถยนต์อาจกำลังบ่งบอกคุณว่าแบตเตอรี่กำลังเสื่อมหรือหมดสภาพหากไฟหน้าปัดดูลดลงไม่สว่างเท่าที่ควรจะเป็น แสดงว่าแบตเตอรี่ของรถยนต์กำลังหมดปภาพนั้นเอง ซึ่งการมองดูที่ไฟหน้าปัดว่าสว่างอยู่หรือไม่ก็เป็นวิธีการง่ายๆที่มือใหม่ก็ดูได้ว่าแบตเตอรี่ต้องการเปลี่ยนหรือไม่

2.3 ประสิทธิภาพของไฟหน้ารถลดลง

หากคุณกำลังขับขี่ในในช่วงกลางคืนแล้วพบว่าไฟหน้าที่รถของคุณไม่สว่างเท่าที่ควรหรือไฟอ่อนลงก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่บ่งบอกว่าแบตเตอรี่ของคุณเสื่อมลงแล้วนั้นเอง ซึ่งเป็นวิธีง่ายๆที่ใครๆก็ทำได้และแน่นอนคุณเองก็ทำไมเพียงสังเกตุรถยนต์ของตัวคุณเองบ่อยๆ

3.ขั้นตอนการเปลี่ยนแบตเตอรี่

โดยขั้นตอนที่จะพูดถึงนี้จะเป็นขั้นตอนการเปลี่ยนแบตเตอรี่แบบง่ายๆที่เหมาะสำหรับมือใหม่ ที่มีความจำเป็นหรืออยากลองเปลี่ยนแบตเตอรี่รถยนต์ดู ซึ่งจะเป็นการดับเครื่องรถยนต์ในการเปลี่ยนแบตเตอรี่นั้นเอง หากจะเปลี่ยนแบตเตอรี่แบบสตาร์ทเครื่องไว้หรือเลี้ยงไฟผ่านช่อง OBD อาจจำเป็นต้องมีประสบการณ์ในระดับหนึ่งก่อน

3.1การเตรียมอุปกรณ์ที่ต้องใช้

ในการเปลี่ยนแบตเตอรี่รถยนต์นั้นคุณควรมีเครื่องมือที่จำเป็นต่อการขันน็อตต่างๆเพื่อเอาแบตเตอรี่ออกมาซึ่งอุปกรณ์ที่ควรมีจะมีดังนี้

• ประแจเบอร์ 10-13
• ถุงมือ
• แว่นตาหรือแว่นนิรภัย
• ผ้าสะอาด
• น้ำเดือดๆหรือน้ำมันหล่อลื่น (Sonex)

3.2 ดับเครื่องยนต์และระบบไฟต่างๆภายในรถยนต์

โดยในขั้นแรกในการเปลี่ยนแบตเตอรี่นั่นคุณควรจะปิดระบบไฟต่างๆภายในรถลงก่อน ไม่ว่าจะแอร์หรือไฟหน้าก็ควรปิดลงให้หมดเพื่อป้องกันอันตรายต่างๆที่อาจเกิดขึ้นกับระบบภายในรถยนต์ของคุณได้ ดังนั้นเมื่อเช็คว่าดับเครื่องยนต์ปิดระบบไฟอะไรเรียบร้อยแล้วก็ถึงเวลาที่ต้องสวมถุงมือและแว่นตา

3.3 การถอดแบตเตอรี่รถยนต์ออก

เมื่อสวมใส่ถุงมือและแว่นตาเรียบร้อยแล้วก็ถึงเวลาที่ต้องเปิดฝากระโปรงรถ เพื่อตรวจดูสภาพของแบตเตอรี่และทำการถอดที่ยึดแบตเตอรี่ออก แล้วจึงถอดขั้วแบตออกจงจำไว้ว่าเวลาถอดขั้วแบตออกควรถอดขั้วลบออกก่อนและตามด้วยขั้วบวกและสิ่งสำคัญและอันตรายที่สุดก็คือขั้วบวก เมื่อถอดขั้วบวกออกมาแล้วควรระวังไม่ให้โดนกับตัวรถหรือสิ่งใดๆภายในรถเด็ดขาด ให้เอาผ้ามาหุ้มไว้เพื่อป้องกันการกระทบกันของขั้วบวก แล้วจึงยกแบตเตอรี่ออกมา

3.4 การใส่แบตเตอรี่ลูกใหม่

หลังจากการถอดแบตเตอรี่ลูกเดิมเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ทำการยกแบตลูกใหม่ที่เตรียมไว้มาใส่ไว้ที่เดิมโดยที่หันข้างของแบตเตอรี่ให้ถูกกับขั้ว บวก ลบ แบตเตอรี่ เมื่อวางเสร็จจงจำไว้ว่าให้ใส่ขั้วบวกก่อนเสมอแล้วจึงใส่ขั้วลบตามลำดับ จำง่ายๆในการถอดใส่แบตเตอรี่ให้ ถอด-ลบ ใส่-บวก เพื่อป้องกันปัญหาและอันตรายที่เกิดขึ้นได้แล้วจึงขันน็อตให้เรียบร้อยแล้วจึงใส่คานยึดแบตเตอรี่

3.5 การทำความสะอาดขั้วแบตเตอรี่

หลังจากติดตั้งแบตเตอรี่ลูกใหม่และตรวจความเรียบร้อยเสร็จหมดแล้ว ก็ถึงเวลาทำความสะอาดขั้วแบตเตอรี่หรือใช้ Sonex เพื่อให้ขั้วแบตเตอรี่สะอาดและล้างคราบสิ่งสกปกทั้งหลาย หากพบว่าแบตเตอรี่ลูกใหม่ที่นำมาเปลี่ยนนั้นเป็นของมือ 2 ก็ควรเช็คว่ามีคราบขี้เกลือหรือไม่ หากพบว่ามีก็ให้ใช้น้ำเดือดๆที่เตรียมมาทำความสะอาดได้เลย

4.การดูแลและรักษาแบตเตอรี่ใหม่

หลังจากที่เปลี่ยนแบตเตอรี่รถยนต์เสร็จแล้วก็ต้องคอยดูแลรักษาแบตเตอรี่ลูกใหม่ที่คุณใช้ เพื่อประสิทธิภาพในการทำงานและยืดอายุการใช้งานของตัวแบตเตอรี่ ดังนั้นหากพอมีเวลาว่างก็ควรตรวจเช็คสภาพรถยนต์และแบตเตอรี่ของคุณและหากว่าแบตเตอรี่ของคุณเป็นแบบน้ำก็ควรหมั่นในการตรวจเช็คระดับน้ำและเติมน้ำกลั่นในทุกๆเดือน

5.คำแนะนำในการดูแลรถยนต์

ใช้รถอย่างสม่ำเสมอเพื่อป้องกันการสูญเสียพลังงานของแบตเตอรี่ซึ่งจะช่วยยืดอายุไฟของแบตเตอรี่อีกด้วย ตรวจสอบระบบไฟในรถเพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นเองก็สำคัญเช่นกันหากพบว่าระบบไฟฟ้ามีปัญหาก็วรโทรหาช่างหรือผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับคำแนะนำได้เช่นเดียวกันและการเลือกซื้อแบตเตอรี่ที่เหมาะสมกับยี่ห้อและรุ่นของรถยนต์จะช่วยทำให้แบตเตอรี่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

สุดท้ายแล้วการเปลี่ยนแบตเตอรี่รถยนต์ด้วยตนเองนั้นสามารถทำได้ซึ่งการดับเครื่องแล้วเปลี่ยนแบตเตอรี่ ในรถที่ใช้ระบบไฟเยอะหรือรถรุ่นใหม่ต่างๆค่าที่คุณเซ็ตไว้ในรถอาจถูกรีเซ็ตลงได้จึงเป็นข้อจำกัดของการเปลี่ยนแบตเตอรี่แบบดับเครื่องนั้นเอง หากมีประสบการณ์ที่มากขึ้นก็สามารถสตาร์ทรถยนต์แล้วเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้หรือต่อช่อง OBD ด้วยเช่นกัน ดังนั้นการเปลี่ยนแบตเตอรี่รถยนต์สำหรับมือใหม่ก็ขอแนะนำให้ดับเครื่องยนต์ไว้เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นกับตัวคุณได้หรือหากเป็นกังวลเรื่องแบตเตอรี่ก็สามารถติดต่อหาช่างที่ไว้ใจเพื่อขอรับคำแนะนำได้เช่นเดียวกัน