สำหรับรถสายจอดที่ไม่ค่อยได้ใช้งาน ทำให้เวลาสตาร์ทรถรู้สึกสตาร์ทติดยากหรือสตาร์ทไม่ติด สาเหตุหลักๆมาจากแบตเตอรี่ที่ไม่ได้ใช้งานนานทำให้สตาร์ทไม่ติด ดังนั้นแล้วรถสายจอดควรเลือกใช้แบตเตอรี่แบบไหนเพื่อให้แบตเตอรี่สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิ
สาเหตุมาจากแบตเตอรี่คายประจุไฟออกมาตลอดเวลาในช่วงที่เราไม่ได้ใช้งานรถยนต์ ทำให้ไฟในตัวแบตเตอรี่เริ่มอ่อนลงเรื่อย ๆ จนส่งผลให้รถมีอาการสตาร์ทติดยากเนื่องจากไฟในแบตเตอรี่อ่อน หากปล่อยทิ้งไว้นานๆจะทำให้แบตเตอรี่ไม่เหลือกำลังไฟในการสตาร์ทรถ ต่อให้นำแบตเตอรี่ออกมาชาร์จไฟ ก็อาจจะไม่สามารถใช้งานได้อยู่ดีเนื่องจากตัวแบตเตอรี่ไม่เหลือกำลังไฟและค่า CCA ในการสตาร์ทแล้ว
แบตเตอรี่แนะนำสำหรับรถสายจอด อย่างที่ทราบกันดีว่าหากจอดรถทิ้งไว้นานๆกำลังไฟของแบตเตอรี่และค่า CCA จะลดลงดังนั้นควรเลือกซื้อแบตเตอรี่ที่มีค่า CCA ที่สูงเนื่องจากรถที่จอดไว้จะทำให้กำลังไฟในแบตเตอรี่และค่า CCA ตกลง สำหรับแบตเตอรี่ที่กำลังไฟและค่า CCA น้อยก็จะส่งผลให้เสื่อมสภาพเร็วกว่าที่ควร ดังนั้นแล้วแบตเตอรี่ที่จะขอแนะนำมีดังนี้
· แบตเตอรี่แบบแห้ง – เหมาะกับรถสายจอด เพราะว่าดูแลง่ายไม่ต้องเติมน้ำกลั่นตลอดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ ส่วนใหญ่ยังมีกำลังไฟและค่า CCA ที่สูงกว่าแบตเตอรี่ทั่วไป
· แบตเตอรี่กึ่งแห้ง - เหมาะกับรถที่ใช้งานไม่บ่อย แบตเตอรี่กึ่งแห้งเป็นแบตเตอรี่ที่มีกำลังไฟและค่า CCA สูงไม่แพ้แบตเตอรี่แบบแห้งบางรุ่นและยังสามารถเติมน้ำกลั่นได้สำหรับคนที่ขับรถบ่อยๆ แบตเตอรี่ชนิดนี้หากไม่ได้ใช้งานรถเยอะแทบไม่ต้องเติมน้ำกลั่นตลอดทั้งปี
รถสายจอดไม่แนะนำแบตเตอรี่น้ำ โดยจะมีสาเหตุหลักดังนี้
· ค่า CCA – แบตเตอรี่น้ำจะเหมาะกับผู้ขับขี่ที่ใช้รถเยอะจึงมีค่า CCA ที่ไม่สูงมากนัก บางรุ่นก็สามารถสูงกว่าแบตเตอรี่แห้ง/กึ่งแห้งได้ ส่วนใหญ่ของแบตเตอรี่น้ำจะมีค่า CCA ที่น้อยกว่าแบตเตอรี่รุ่นอื่นๆ ดังนั้นหากจอดรถทิ้งไว้นานกำลังไฟและ CCA ในแบตเตอรี่น้ำก็จะลดลงไปประกอบกับการที่แบตเตอรี่น้ำมีกำลังไฟและค่า CCA ไม่มากเท่ารุ่นอื่นๆจึงเสื่อมลงได้ง่ายและเร็วกว่าแบตเตอรี่อื่นๆนั้นเอง
· ต้องการการดูแล – เนื่องจากแบตเตอรี่น้ำหากไม่ได้ใช้งานนาน ทำให้เกิดซัลเฟสเกาะที่แผ่นธาตุของแบตเตอรี่ยิ่งมากเท่าไร แบตเตอรี่ยิ่งเสื่อมเร็วเท่านั้น
แบตเตอรี่สำหรับสายจอดที่แนะนำเลยก็คือแบตเตอรี่แบบกึ่งแห้งหรือแห้ง ที่กำลังไฟและค่า CCA ที่สูง เนื่องจากการจอดทิ้งไว้นานจะทำให้กำลังไฟและค่า CCA ลดลงหากเป็นแบตเตอรี่ที่มีกำลังไฟ ค่า CCA สูงก็ยังสามารถสตาร์ทรถได้ แต่ทางที่ดีใน 1 สัปดาห์เราควรขับขี่รถยนต์อย่างน้อยสัก 1 – 2 วันเพื่อให้แบตเตอรี่ได้ชาร์จไฟในระหว่างขับขี่ ดังนั้นหากมีเรื่องสอบถามสามารถสอบถามได้ที่ รวมโชคแบตเตอรี่ ทางเรายินดีให้คำแนะนำและคำปรึกษาทุกๆท่านที่เข้ามา