รู้หรือไม่ว่าภายในรถยนต์ที่ห้องเครื่องมีของเหลวต่างๆที่จำเป็นต่อรถยนต์ของเรา หากปล่อยทิ้งไว้ไม่ได้ดูแลจนทำให้ของเหลวเหล่านั้นแห้งลงไปหรือต่ำกว่ามาตารฐานจะส่งผลให้รถยนต์มีปัญหาตามมาได้ ดังนั้นหากเราดูแล 5 ของเหลวสำคัญในรถยนต์ได้ จะสามารถช่วยให้รถของเราขับขี่ได้อย่างไม่มีปัญหาและไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่างๆที่ตามมาบนท้องถนน
ของเหลวในรถสำคัญยังไง
ระบบของเหลวภายในรถยนต์ของเรานั้น เมื่อถูกใช้งานไปก็มีอายุการใช้งาน ต้องเปลี่ยนใหม่หากผู้ใช้งานขาดการดูแลรถยนต์หรือตรวจเช็คระบบของเหลวภายในรถยนต์เป็นเวลานาน อาจจะทำให้รถยนต์ของคุณมีอายุการใช้งานที่สั้นลง โดยของเหลวที่สำคัญต่อรถยนต์เรามีดังนี้
- น้ำมันเครื่อง
- น้ำยาหล่อเย็น(Coolant)
- น้ำปัดน้ำฝน
- น้ำมันพาวเวอร์/น้ำมันพวงมาลัย
- น้ำมันเบรก
การดูแลระบบของเหลวภายในรถยนต์
การดูแลของเหลวภายในรถยนต์หรือห้องเครื่องรถ โดยการดูแลควรดูทีละส่วนและระมัดระวังในการเปิดดูน้ำมันเครื่องต่างๆ เพราะหากพึ่งใช้งานรถมาแล้วเปิดดูน้ำมันเครื่องหากเราไม่ระมัดระวังจะทำให้น้ำในหม้อน้ำพุ่งออกมาโดนหน้าเราได้ โดยมีวิธีตรวจเช็คได้ตามนี้
- น้ำมันเครื่อง – การเปลี่ยนน้ำมันเครื่องนั้นส่วนใหญ่จะนิยมเปลี่ยนกันเมื่อรถวิ่งถึงระยะประมาณ 10,000 กิโลเมตร(ขึ้นอยู่กับประเภทของน้ำมันเครื่อง)เมื่อรถวิ่งถึงระยะทางประมาณ 5,000-7,000 (น้ำมันเครื่องแบบกึ่งสังเคราะห์)หรือควรเปลี่ยนน้ำมันเครื่องทุกๆ 6 เดือน ขึ้นอยู่กับการใช้งานรถยนต์ของผู้ใช้งานว่าใช้มากน้อยแค่ไหน
- น้ำยาหล่อเย็น(Coolant) – สังเกตได้ว่าน้ำยาหล่อเย็นจะมีสีสะท้อนแสงเพื่อตรวจดูได้ว่ามีรอยรั้วภายในถังหรือไม่ น้ำยาหล่อเย็นเป็นของเหลวที่ใช้เพื่อถ่ายเทความร้อนส่วนเกินออกจากเครื่องยนต์ที่เกิดความร้อนสูงขึ้นจากเผาไหม้ภายในเพื่อการขับเคลื่อน ควรตรวจสอบระดับน้ำในหม้อน้ำรถยนต์อย่างน้อยสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง โดยทำขณะเครื่องยนต์เย็น ระดับน้ำควรอยู่ระหว่าง MIN และ MAX การเติมน้ำควรใช้น้ำกลั่นผสมกับน้ำยาหล่อเย็น(ขึ้นอยู่กับน้ำยาว่าให้ผสมหรือไม่)เนื่องจากจะช่วยให้ระบบการทำงานเครื่องยนต์เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพที่สุด
- น้ำปัดน้ำฝน - น้ำกรอง น้ำดื่มสะอาดสามารถใช้เติมได้ สามารถผสมน้ำยาล้างกระจกได้นิดหน่อยแบบเจือจาง เพื่อเพิ่มความใสให้กับกระจกขณะที่ปัดน้ำฝนทำงานหรือสามารถใช้น้ำยาล้างจานผสมน้ำแบบเจือจาง ทำให้กระจกสะอาดขึ้นเช่นกัน เพื่อกำจัดคราบสกปรก คราบแมลงออกได้ง่าย
- น้ำมันพาวเวอร์/น้ำมันพวงมาลัย - เช็ดน้ำมันออกจากก้านวัดให้หมด > จุ่มลงไปใหม่ให้สุด > ดึงกลับขึ้นมา > ดูว่าระดับต่ำกว่าขีดต่ำสุดหรือเปล่า ถ้าต่ำกว่าก็ให้เติมให้พอดี ควรเติมให้อยู่ในระหว่าง max-min
- น้ำมันเบรก - ควรเปลี่ยนทุก ๆ 1-2 ปี หรือทุกระยะทาง 40,000 กม. เพื่อให้น้ำมันเบรกสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด แต่ไม่ควรปล่อยเอาไว้นานเกิน 3 ปี หากต้องการเปลี่ยนเกรดให้ถ่ายของเก่าออกให้หมดเสียก่อน
การตรวจเช็ครถยนต์ให้เรียบร้อย
แม้ว่าจะนำรถเข้าศูนย์เช็คระยะ ตรวจสภาพรถยนต์อย่างสม่ำเสมอ แต่ถ้าหากต้องเดินทางไกลถึงแม้ยังไม่ถึงเวลาเข้าศูนย์เพื่อตรวจสภาพรถยนต์ สามารถทำการตรวจสภาพรถยนต์เบื้องต้นด้วยตัวเองอีกครั้งเพื่อตรวจสภาพรถยนต์ให้แน่ใจว่ารถของคุณพร้อมใช้งาน ดังนั้นควรมั่นตรวจเช็ครถยนต์ของคุณเองเพื่อป้องกันอันตรายต่างๆที่อาจเกิดขึ้นได้หากเราไม่ได้ดูแลรถยนต์ไม่ว่าจะเป็นของเหลวในรถ แบตเตอรี่ ระบบไฟต่างๆ เพื่อประสบการณ์ที่ดีบนท้องถนน
หากกังวลเรื่องของเหลวภายในรถยนต์หรือต้องการสอบถามเรื่องเกี่ยวกับรถยนต์ สามารถติดต่อ รวมโชคแบตเตอรี่ ทางเรายินดีให้คำแนะและคำปรึกษาแก่ทุกๆท่าน แบตเสีย แบตเสื่อม รถสตาร์ทไม่ติด ต่อต่อเราได้เลย เรายินดีให้บริการ