พวงมาลัยเพาเวอร์หนัก เกิดจากอะไร?

พวงมาลัยเพาเวอร์หนัก เกิดจากอะไร?

07 ส.ค. 2567   ผู้เข้าชม 76

พวงมาลัยเพาเวอร์รถยนต์ อุปกรณ์หลักในการขับขี่รถยนต์ ตัวสำคัญที่ต้องใช้บังคับทิศทางของรถให้เคลื่อนที่ไปในทิศทางที่ต้องการ แต่เมื่อใช้งานไปได้ในระยะเวลาหนึ่งจะรู้สึกว่าควบคุมทิศทางได้ยากขึ้นหรือที่เรียกกันว่าพวงมาลัยเพาเวอร์หนัก สาเหตละปัจจัยอะไรที่ทำให้พวงมาลัยเพาเวอร์หนักขึ้นแล้วเราจะมีวิธีแก้ไขปัญหาอย่างไรหากเจอเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น

 

พวงมาลัยเพาเวอร์ คืออะไร

พวงมาลัยเพาเวอร์เป็นอุปกรณ์สำคัญที่ช่วยให้การบังคับพวงมาลัยมีความลื่นไหล ช่วยในการขับขี่ให้สะดวกสบาย ในปัจจุบันมีพวงมาลัยเพาเวอร์อยู่ 2 แบบด้วยกันคือ พวงมาลัยเพาเวอร์แบบไฮดรอลิค และระบบพวงมาลัยเพาเวอร์แบบไฟฟ้า EPS ซึ่งทั้ง 2 แบบนี้มีความแตกต่างกันโดยมีลักษณะข้อดี ข้อจำกัดที่แตกต่างกันดังนี้

·         พวงมาลัยเพาเวอร์แบบไฮดรอลิค เป็นการทำงานโดยใช้ปั๊มไฮดรอลิค สร้างแรงดันเพื่อส่งกำลังไปยังกระปุกพวงมาลัย หรือแร็กพวงมาลัย โดยใช้แรงจากเครื่องยนต์ช่วยหมุนสายพานมายังปั๊มไฮดรอลิค เพื่อให้พวงมาลัยผ่อนแรงลงในตอนที่หักเลี้ยวรถ ข้อดี พวงมาลัยแบบนี้มีความแม่นยำสูง ข้อจำกัด ระบบไฮดรอลิคจะใช้น้ำมันในการถ่ายทอดพลังงาน อาจมีการรั่วซึมที่เกิดจากซีลหรือท่อยางชำรุด

·         ระบบพวงมาลัยเพาเวอร์แบบไฟฟ้า EPS (Electric Power Steering) ระบบพวงมาลัยเพาเวอร์แบบไฟฟ้านั้น จะใช้มอเตอร์ไฟฟ้าเป็นตัวสร้างกำลังในการช่วยผ่อนแรงพวงมาลัย โดยเมื่อมีการหมุนพวงมาลัยซ้ายขวา จะมีเซ็นเซอร์คอยตรวจจับการทำงาน ก่อนที่จะส่งไปยังกล่องควบคุม เพื่อให้มอเตอร์ทำงาน และช่วยผ่อนแรงพวงมาลัย ให้พวงมาลัยเบาขึ้น ข้อดี เมื่อใช้ความเร็วต่ำ พวงมาลัยจะเบามาก เมื่อใช้ความเร็วสูงกล่องควบคุมจะมีคำสั่งให้พวงมาลัยหนักขึ้น ข้อจำกัด ความแม่นยำในการขับขี่ การเข้าโค้ง จะแม่นยำน้อยกว่าแบบระบบไฮดรอลิค

 

 

พวงมาลัยเพาเวอร์หนัก เกิดจากอะไร

ปัญหาพวงมาลัยเพาเวอร์หนัก มีสาเหตุเกิดจากอะไรได้บ้าง โดยมีดังนี้

·         ระดับน้ำมันต่ำ ทำให้เกิดแรงขับเคลื่อนได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ

·         ปั๊มไฮดรอลิคเสียหาย สังเกตได้จากมีเสียงดัง หรือเสียงหอนเกิดขึ้น

·         ลมยางอ่อนทำให้รถหนักขึ้น พวงมาลัยก็หนักตาม

·         แบตเตอรี่อ่อน ทำให้ไฟฟ้าไม่พอทำให้พวงมาลัยหนัก

 

 

การดูแลป้องกันพวงมาลัยเพาเวอร์หนัก

สำหรับการดูแลและป้องกันนั้นสามารถทำได้ง่าย โดยการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเพาเวอร์ไม่ให้ต่ำกว่าค่าที่กำหนดไว้ มั่นดูแลทุกๆ 40,000 กิโลเมตร หรือ 2 ปี/ครั้ง ในส่วนของระบบไฟฟ้าจะดูแลง่ายกว่าระบบไฮดรอลิคแต่เมื่อเสียขึ้นมาจะมีค่าซ่อมที่สูงกว่าเช่นกัน

 

 

พวงมาลัยเพาเวอร์ เป็นสิ่งสำคัญต่อการควบคุมทิศทางรถยนต์ของเราหากพบว่าพวงมาลัยรู้สึกหนักควรตรวจเช็คน้ำมันเพาเวอร์หรืออุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องเพื่อป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้นมาได้ หากมีเรื่องสอบถามก็สามารถติดต่อมาได้ที่ รวมโชคแบตเตอรี่ เรายินดีให้บริการทุกท่าน


สาระน่ารู้ที่เกี่ยวข้อง