การดูแลแบตเตอรี่เป็นเรื่องสำคัญอย่างหนึ่ง หากไม่ได้ดูแลแบตเตอรี่อาจทำให้เกิดปัญหาอื่นๆตามมา โดนเฉพาะกับแบตเตอรี่รถบรรทุกที่มีความแตกต่างจากแบตเตอรี่อื่นๆ เนื่องจากปัจจัยต่างๆที่เราจำเป็นต้องดูแล ดังนั้นวิธีการดูแลแบตเตอรี่รถบรรทุกจะมีปัจจัยอะไรบ้างที่เราจำเป็นต้องคอยดูแลเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาต่างๆ
แบตเตอรี่รถบรรทุกต่างกับแบตเตอรี่ธรรมดายังไง
แบตเตอรี่สำหรับรถบรรทุกขนาดใหญ่ ใช้งานหนัก ต้องการกำลังไฟสูง การเลือกใช้ขนาดแอมป์แบตเตอรี่ที่เหมาะสมควรเลือกใช้แบตเตอรี่ชนิดเติมน้ำกลั่น ขนาดแอมป์จะอยู่ที่ 100-200 แอมป์ 2 ลูกและต่อพ่วงแบบอนุกรมเพื่อเพิ่มจาก 12 โวลต์ ให้เป็น 24 โวลต์ ดังนั้นแล้วแบตเตอรี่ของรถบรรทุกจึงมีความแตกต่างกับแบตเตอรี่รถธรรมดาที่ใช้ขนาดแอมป์น้อยกว่าและแบตเตอรี่เพียง 1 ลูกเท่านั้นแตกต่างกับรถบรรทุกที่ต้องการแบตเตอรี่ที่มีขนาด 100-200 แอมป์ 2 ลูก เพื่อมาต่อแบบอนุกรมให้กลายเป็น 24 โวลต์
วิธีการดูแลแบตเตอรี่ของรถบรรทุก
วิธีการดูแลแบตเตอรี่ของรถบรรทุกไม่ให้เสื่อมลงหรือมีปัญหา ไม่ใช่เรื่องยากแต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะหากปล่อยทิ้งไว้นานวันโดยไม่ได้ดูแลอาจทำให้แบตเตอรี่ระเบิดได้เลย ดังนั้นจะมีวิธีการดูแลคราวๆดังนี้
- ระดับน้ำกลั่น – แบตเตอรี่ของรถบรรทุก เป็นแบบเติมน้ำกลั่น ดังนั้นหากใช้งานรถบ่อยหรือเป็นประจำควรมั่นตรวจเช็คและเติมน้ำกลั่น 1 เดือน/ครั้ง หรือขึ้นอยู่กับการใช้งานเพื่อไม่ให้ระดับน้ำในแบตเตอรี่ต่ำหรือแห้งจนเกินไป
- การดูแลขั้วแบตเตอรี่ – การดูแลขั้วแบตเตอรี่ หากพบว่ามีคราบสิ่งสกปรกหรือคราบขี้เกลือเกาะอยู่ที่ขั้วแบตเตอรี่ควรทำความสะอาดด้วยน้ำเปล่าเดือดๆราดลงไปที่ขั้วแบตเตอรี่แล้วใช้ผ้าเช็ดทำความสะอาดรอบๆ สามารถทาจารบีหรือสวมแหวนสักหลาดป้องกันคราบขี้เกลือได้เช่นเดียวกัน
- การสลับแบตเตอรี่ – การสลับแบตเตอรี่จะช่วยยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ ควรจะสลับอย่างน้อย 6 เดือน/ครั้ง
- อย่าลืมปิดอุปกรณ์ไฟฟ้าหลังจากดับไฟแล้ว – งดใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าในรถยนต์เป็นเวลานานเพราะเมื่อเราใช้ไฟจากแบตเตอรี่ขณะที่รถไม่ได้สตาร์ทอยู่จะทำให้แบตเตอรี่เสื่อมลงหากใช้เป็นเวลานาน
อันตรายต่างๆหากปล่อยทิ้งไว้
ในเมื่อเรารู้วิธีการดูแลแบตเตอรี่รถบรรทุกแล้ว หากเราปล่อยทิ้งไว้ไม่ได้ดูแลแบตเตอรี่จะส่งผลเสียอย่างไรบ้าง
- ขั้วแบตเตอรี่ละลาย – หากปล่อยขั้วแบตเตอรี่ให้มีคราบขี้เกลือเกาะเป็นเวลานานและไม่ได้ทำความสะอาดจะทำให้การไหลผ่านของไฟที่แบตเตอรี่ไม่ได้ประสิทธิภาพและทำให้เกิดการช็อตจนทำให้ขั้วแบตเตอรี่ละลาย
- น้ำกลั่นต่ำหรือแห้ง – ระดับน้ำกลั่นของแบตเตอรี่แห้งหรือต่ำเกินไปจะทำให้แผ่นธาตุภายในของแบตเตอรี่เสียหายได้และหากเราใช้งานรถอยู่จะทำให้เกิดแก๊ส เมื่อแผ่นธาตุภายในเกิดการกระทบกันจะทำให้เกิดประกายไฟ ทำให้แบตเตอรี่ระเบิด
- แบตเตอรี่เสื่อมเร็ว – หากไม่ได้ดูแลเป็นเวลานานไม่ว่าจะเป็นน้ำกลั่นหรือขั้วแบตเตอรี่ และการสลับแบตเตอรี่จะทำให้แบตเตอรี่เสื่อมลงอย่างรวดเร็วและเสียไปในที่สุด
แบตเตอรี่รถบรรทุกดูแลไม่ยากแลไม่ง่าย เพียงแต่ต้องคอยตัวเช็คแบตเตอรี่เป็นระยะๆ เพื่อป้องกันปัญหาต่างๆที่ตามมาและยังช่วยยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ให้ยาวนานยิ่งขึ้น ดังนั้นหากมีข้อสงสัยหรืออยากสอบถาม สามารถสอบได้ที่ รวมโชคแบตเตอรี่ เรายินดีให้แนะนำและคำปรึกษาทุกๆท่านครับ